Skip to content

เงินถูกดูด ตัดบัตรกว่าหมื่นใบ มูลค่ารวมกว่า 130 ล้านบาท!!!

Credit,เงินถูกดูด

เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา (ล่าสุดวันที่ 17 ตุลาคม 2564) ได้มีผู้เสียหายเป็นจำนวนมากถูกตัดเงินออกจากบัญชี ซึ่งมีหลายรายการพบว่าเป็นการหักเงินผ่าน Debit Card และ Credit Card ของธนาคารอย่างผิดปกติ โดยส่วนใหญ่พบการตัดเงินในบัญชี ระบุข้อความ “Purchase via EDC” (อ้างอิง ภาพที่ 1 AmarinTV)

อ้างอิง ภาพที่ 1 AmarinTV

ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทยและธนาคารสมาคมแห่งประเทศไทยได้ออกมาชี้แจงในเบื้องต้นว่าสาเหตุไม่ได้เกิดจากการรั่วไหลข้อมูลของธนาคาร แต่เป็นรายการที่เกิดขึ้นจากการทำธุรกรรมชำระสินค้าและบริการกับร้านค้าออนไลน์ที่จดทะเบียนในต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่ และไม่ใช่แอพดูดเงินดังที่ปรากฏเป็นข่าว[2]

เครื่อง EDC คืออะไร (อ้างอิงภาพที่ 1 ชำระค่าสินค้าผ่าน EDC)

เครื่อง EDC หรือ Electronic Data Capture หรือที่เรียกติดปากกันว่าเครื่องรูดบัตร ซึ่งเป็นอุปกรณ์รับชำระเงินที่ทันสมัยในยุคดิจิทัลไม่ว่าจะเป็นบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต

EDC ใช้ทำอะไรได้บ้าง

• รับบัตรเครดิต และบัตรเดบิต ไม่ว่าจะเป็น VISA, MasterCard, JCB, UnionPay รวมไปถึง Amex
• รับสแกน QR Code ได้จาก Mobile Banking ทุกธนาคาร และ E-Wallet
• รองรับการจ่ายเงินของชาวจีนด้วย Alipay และ WeChat Pay
• รองรับการจ่ายเงินแบบ Contactless Payment เพียงใช้บัตรเครดิต หรือ บัตรเดบิตแตะที่เครื่อง EDC ก็สามารถจ่ายเงินได้ทันที
• สามารถทำรายการแบ่งจ่าย หรือ ผ่อนชำระผ่านบัตรเครดิตได้
• แปลงสกุลเงินต่างชาติ สำหรับลูกค้าต่างประเทศ โดยลูกค้าสามารถเลือกจ่ายเงินเป็นสกุลเงินบาท หรือ สกุลในประเทศของตนเอง ซึ่งสะดวกทั้งลูกค้า และร้านค้า เรียกได้ว่าไม่ต้องกังวลเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน และร้านค้าจะได้เงินเข้าบัญชีเป็นเงินบาทตามที่เราได้ตั้งราคาไว้
• ผู้ประกอบการร้านค้า และบริการ สามารถตรวจสอบยอดขายได้ทันที
 
เครื่อง EDC มี 3 รูปแบบ ดังนี้
 

อ้างอิง https://www.dharmniti.co.th

เครื่องรูดบัตรแบบติดตั้งในร้านรับชำระค่าสินค้าหรือบริการโดยเชื่อมต่อกับระบบโทรศัพท์หรืออินเทอร์เน็ต เหมาะกับการติดตั้งประจำที่ร้าน

อ้างอิง https://www.dharmniti.co.th

เครื่องรูดบัตรแบบเคลื่อนที่ Mobile EDC รับชำระค่าสินค้าหรือบริการโดยเครื่องจะเชื่อมต่อสัญญาณผ่านเครือข่ายโทรศัพท์มือถือที่ต้องมีซิมการ์ด เหมาะการออกงานแสดงสินค้า (Exhibition) ตามที่ต่างๆ หรือไม่มีร้านประจำ

อ้างอิง https://www.dharmniti.co.th

เครื่องรูดบัตรมือถือ mPOS  รับชำระค่าสินค้าหรือบริการโดยเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือเพื่อชำระสินค้าและบริการ ขนาดเล็กพกพาสะดวกเหมาะกับธุรกิจ Delivery และ Direct Sales

จากสาเหตุที่กล่าวในข้างต้น เรื่องการหักเงินผ่านบัตรเดบิตและบัตรเครดิตของธนาคารอย่างผิดปกติที่เกิดขึ้นทำให้ธนาคารแห่งประเทศไทยและสมาคมธนาคารไทย ได้ร่วมกันกำหนดมาตรการเพิ่มเติมเพื่อป้องกันและแก้ปัญหา ดังนี้

ภาพจาก ธนาคารแห่งประเทศไทย

แนวทางการป้องกัน

ผู้ใช้งานบัตรเดบิตหรือบัตรเครดิตควรมีความตระหนักถึงความปลอดภัยในการทำธุรกรรมทางการเงินดังต่อไปนี้
1. ไม่ผูกบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตกับแอปพลิเคชันที่ไม่มีความน่าเชื่อถือ

2. ไม่ผูกบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตกับเว็ปไซต์ที่ไม่น่าเชื่อถือ
3. หลีกเลี่ยงการกดลิงก์ที่แนบมาทางอีเมล
4. หลีกเลี่ยงการกดลิงก์ที่แนบมาทางข้อความ SMS
5. หลีกเลี่ยงการกดลิงก์ที่แนบมาทาง Messenger (Facebook, Line, Instagram)
6. ไม่ใช้เครือข่าย Wi-Fi สาธารณะในการทำธุรกรรมทางการเงิน
7. รูดบัตรชำระเงิน (จ่ายเงินค่าน้ำมัน, ซื้อของในห้างสรรพสินค้า, จ่ายค่าอาหาร) ควรใช้สติ๊กเกอร์ปิดรหัสเลข CVV 3 หลัก หลังบัตร
8. อย่าปล่อยให้บัตรคลาดสายตา โดยการเดินติดตามไปที่เครื่องรูดบัตรทุกครั้งเพื่อป้องกันการแอบถ่ายรูปหน้าบัตรและหลังบัตร
9. ตั้งรหัสให้ยากต่อการคาดเดา
10. สมัคร SMS หรือไลน์แจ้งเตือนการทำธุรกรรมทางการเงิน
11. หมั่นตรวจสอบยอดเงินในบัญชีอย่างสม่ำเสมอ
12. จำกัดวงเงินบัตรเครดิตและบัตรเดบิต
13. เปิดบัญชีใหม่เพื่อใช้สำหรับซื้อของออนไลน์โดยเฉพาะ ไม่ใช้บัญชีเดียวกับบัญชีเงินเดือน
14. ห้ามบอกข้อมูลบัตรกับคนอื่น
15. หากพบการทำธุรกรรมทางการเงินที่มีความผิดปกติให้ดำเนินการติดต่อธนาคารทันที
 

อ้างอิง :

[1] https://mgronline.com/onlinesection/detail/9640000103748

[1] https://money.kapook.com/view247839.html

[2] https://meet.google.com/xuw-khgj-jey?pli=1&authuser=1

https://hilight.kapook.com/view/217558

https://www.amarintv.com/news/detail/103430

https://www.bot.or.th/Thai/AboutBOT/Activities/Pages/JointPress_19102021.aspx

ผู้เขียน : นาย วสุพล ไชยสง่าศิลป์

ผู้ตรวจทาน : นายเจษฏา ทองก้านเหลือง

เผยแพร่ : วันที่ 20 ตุลาคม 2564